วันอังคารที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ฝึกภาษาปะกิดกับเคเบิ้ลทีวีด้วยวิธีของผม

       กลับมาอีกครั้งกับผู้ชายโสดโฉดนิดๆ กับชีวิตที่ตอนนี้มีแต่กล่องเคเบิ้ล STV เป็นเพื่อน (สมัครเป็นคนรู้ใจผมวันนี้ ได้ดูหนังฟรีช่อง Fox เยอะมาก) เอาล่ะครับ เข้าเรื่องกันดีกว่า หลังจากว่างมาระยะหนึ่ง ผมก็คิดขึ้นได้ว่าควรจะเอาเวลานี้มาพัฒนาทักษะบางอย่างของตัวเองบ้าง ถึงแม้ว่าผมจะต้องให้เวลากับสาวๆเกิร์ลกรุ๊ป โดยเฉพาะน้องฮานิ EXID แต่เพราะตอนนี้เรากำลังเข้าสู่ AEC เพราะฉะนั้นภาษาปะกิดของผมก็ควรต้องแข็งแรงขึ้น ผมจะได้ไปสปาร์คกับสาว เอ้ย! หมายถึง สปีคกับชาวเมืองอื่นได้อย่างทั่วถึงน่ะครับ!!!  

ดูสิครับ ฮานิงอนผมซะแล้ว!!

เอาล่ะๆ เรากลับฝั่ง ตามมาดูวิธีของผมดีกว่า

       ชายผู้จริงจังกลับมาแล้ว! เป้าหมายของผมในครั้งนีก็คือฝึกฟังฝึกพูด (ส่วนเรื่องแกรมม่านั้น ขอวางไว้ในที่ที่มันควรอยู่ไปก่อนนะครับ) ซึ่งวิธีนี้หลายคนก็คงใช้อยู่ นั่นก็คือออออ~ คืออออ คือออ ดูหนังซาวด์แทร็คจากเจ้ากล่อง STV นี่เอง!!!! ว่าแล้วก็จัดไปตามขั้นตอนครับ

       1. เลือกหนังที่อยากดูแล้วจดโปรแกรมฉายกับรีรันไว้
แพ็คเกจที่ผมติดอยู่ขนช่อง Fox มาทั้งแถบไม่ว่าจะ Movie Premium, Movie HD, Action Movies etc. พวกนี้จะมีสารพัดหนังมาฉาย และไม่ใช่แค่รอบเดียว คำแนะนำของผมก็คือ 1.เลือกหนังดัง 2.เพิ่งฉายไม่นาน และ 3. พล็อตไม่ย้อนยุค แบบนี้จะได้ฟังบทสนทนาที่เค้าใช้กันในปัจจุบัน

       2. รอบแรกเปิดซับ รอบอื่นปิดซับ
ในแต่ละอาทิตย์ผมจะฝึกภาษาไปกับหนัง 1-2 เรื่อง (ดูมากเดี๋ยวจะไม่มีเวลาให้ฮานิไงครับ) ดูรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างก็ไม่เป็นไร เพราะเรามันสายบรรเทิง

       3. จดประโยคที่เจอบ่อยจำได้แล้วออกเสียงตาม
ประโยคที่ชอบ ฟังง่าย เจอบ่อย ให้จดไว้ครับ เขียนแล้วจะทำให้จำได้มากขึ้น บางทีผิดเพี้ยนไปก็แค่ลองเสิร์จหาในกู๋ เดี๋ยวก็บรรลุเอง (ข้อดีของหนังดังๆ คือเวลาเสิร์จหา Quote หนังจะเจอง่ายมาก) ทีนี้พอได้ประโยคจริง ครั้งหน้าเปิดดูก็ออกเสียงตามไปด้วย พอได้ยินประโยคแบบนี้อีกเมื่อไหร่ เราจะเข้าใจมันได้อัตโนมัติเลยครับ

เรื่องนี้ผมชอบมาก 500 days of summer ดูไปหลายรอบ จดประโยคจีบสาวไว้ครับ


       วิธีการของผมก็มีเท่านี้แหละครับ อาจจะดูยุ่งยากกว่าซื้อแผ่นหนังมาดู แต่ว่ามันประหยัดตังค์ ถูกกฎหมาย แล้วก็ทำให้ผมได้ฝึกแบบค่อยเป็นค่อยไป

       และสุดท้ายขอขอบคุณกล่องเคเบิ้ล STV เพื่อนยาก นอกจากนายจะทำให้เราได้เป็นนักสืบ จนไปพบรักกับฮานิ ตอนนี้เรายังได้ฝึกภาษาเพิ่มอีกต่างหาก! มิตรภาพระหว่างเราช่างงดงามหาอะไรเปรียบไม่


วันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2558

นอกใจซีรีย์ มาดูอะไรที่ไม่ซีเรียส

          สวัสดีอีกครั้งครับ เพื่อนๆ ทุกคน จากครั้งก่อนที่ผมได้เขียนเรื่องเล่าลงบล็อกในช่วงเวลาว่างๆ ของตัวเองที่ใช้ไปกับเพื่อนยากเจ้ากล่องเคเบิ้ล STV ตัวใหม่ ที่กลายมาเป็นเพื่อนสนิทช่วยแก้เหงา ต้องขอบคุณหลายๆ คนกับการหลวมตัวเข้ามาอ่านนะครับ ยังไงถ้ามีผิดพลาดตกหล่นข้อมูลตรงไหน หรืออยากคุยแนะนำอะไรส่วนตัวกับผมก็เชิญได้ตามสบาย ไม่ต้องกลัวกันนะ เพราะผมแค่อยากแชร์เรื่องราวง่ายๆ ของผู้ชายกลางๆ คนนี้ให้ได้อ่านกันเล่นๆ ขำๆ ครับ ^^
          ครั้งนี้ผมขอเปลี่ยนฝั่งจากฟากตะวันตก มาที่ความบันเทิงใกล้ๆ ตัวแถบเอเชียกันบ้างนะครับ เพราะนอกจากซีรี่ย์ที่ชอบ นอนดูได้นิ่งๆ เพลินๆ ช่วงนี้ก็คงมีแต่กีฬาซีเกมส์ ที่พอให้ขยับมือเชียร์ และส่งเสียเฮลั่นได้เวลาที่พี่ไทยชนะซิวเหรียญทองมา แต่แล้วพอจบเกมส์ก็ได้เวลาไล่นิ้วกดรันช่องไปเรื่อยๆ จากช่องกีฬา ไปสะดุดกับจังหวะดนตรีและความมันส์ในรายการหนึ่ง แต่ไม่เท่านั้นอวัยวะในร่างกายผมเริ่มขยับเข้าตามจังหวะหลังจากที่ตามองจอได้โดยง่าย (กลัวนึกภาพไม่ออก ขอแปะคลิปที่ไปหามาประกอบ O.o)


          รายการที่ว่าชื่อ M Countdown อยู่ในช่อง Channel M จากประเทศเกาหลี เป็นรายการโชว์ร้องโชว์เต้นของศิลปินบ้านเขา ถ้าจะให้เทียบคงคล้ายๆ กับ 7 สีคอนเสิร์ตบ้านเรานั่นแหละครับท่านผู้ชม แต่ความแตกต่างที่ผมรู้สึกได้ระหว่างที่ดูก็คงเป็นความหลากหลายของศิลปินที่ขึ้นโชว์ในเทปนั้นๆ เพราะดูแล้วมีไม่ต่ำกว่า 10 วง ทำให้ตัวรายการดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น อีกอย่างช่องพวกนี้เราจะดูทำอารมณ์กันได้ยาวๆ แบบไม่มีโฆษณาคั่นให้เสียอรรถรสแต่อย่างใด
          แต่เท่านั้นไม่พอผมมีสิ่งดีๆ มาแนะนำเพิ่มเติม (นี่ไม่ใช่การขายตรงแต่อย่างใดนะครับ 555) อันเนื่องมาจากอารมณ์ค้างคาส่วนตัวล้วนๆ ที่ผมยังติดลมบน รายการจบคนไม่จบ ถึงขนาดต้องไปหาคลิปการแสดงจากรายการนี้ดูต่อ ซึ่งสิ่งที่เจอตอน search หาใน Youtube ก็คือ คลิปการแสดงในมุมกล้องที่แตกต่างกันออกไป รวมไปถึงคลิปเจาะเฉพาะไปที่นักร้องคนนั้นๆ ท่อนนั้นๆ เวลาโชว์ โอ้โหววว อู้หูววว ขอบอกว่าเด็ดมากจริงๆ




          มีใครฟินเหมือนผมกันบ้างครับ?? (ในใจแอบอยากให้ทางช่องเคเบิ้ลเอาเวอร์ชั่นเจาะๆ แบบนี้มาฉายบ้างแหะ)
          สุดท้ายขอลาไปนอนฝันถึงสาวๆ ในคลิป ที่ไม่รู้จักฉัน ไม่รู้จักเธอ จำได้แต่หน้าและท่าทางก่อนนะครับ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านเรื่องราวจากผู้ชายกลางๆ คนนี้อีกครั้ง และขอบคุณเพื่อนยาก กล่องเคเบิ้ล STV ที่กลายมาเป็นเพื่อนสนิทในเร็ววันของผมด้วยนะ :-)




วันอังคารที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2558

เมื่อผมกลายเป็นนักสืบคดีฆาตกรรม

        สวัสดีครับเพื่อนๆ ทุกคน วันนี้ผมจะมาว่าด้วยเรื่องตอนที่ผมกลายเป็นนักสืบ เหตุผลนั้นมาจาก ช่วงนี้ผมได้มีเวลาพักอยู่ที่บ้านมากขึ้น แต่กลับพบว่าบ้านนั้นว่างเปล่าซะเหลือเกิน ก็นะชีวิตหนุ่มโสดไม่มีคนรู้ใจมันก็แบบนี้ล่ะ สิ่งเดียวที่ผมทำได้ตอนอยู่ที่บ้าน ไม่เปิดคอมก็เปิดทีวี ซึ่งคอมนั้นมันอยู่หน้าผมมาตลอดหลาย 10 ปี อยู่แล้ว ผมจึงเลือกเปิดทีวีแทนและไล่เปิดช่องต่างๆ ไป โชคดีที่ตอนนั้นผมได้ซื้อกล่องเคเบิ้ลใหม่มาพอดีเลยมีหลายช่องหน่อย ผมขอยกเขาให้เป็นเพื่อนยากช่วยแก้เบื่อเลยทีเดียว
        และแล้วมือผมก็ไปหยุดลงอยู่ที่ซีรีย์ฝรั่งเรื่องหนึ่ง ที่ช่อง FOX THAI นั่นก็คือเรื่อง Castle เรื่องนี้เป็นจุดเริ่มต้นของอาชีพนักสืบของผมเลยล่ะ “เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับนักเขียนนิยายสืบสวนสอบสวนชื่อดัง (มีลูกติด1คน) เข้ามาทำงานกับสารวัตรสาวในสถานีตำรวจ แล้วช่วยกันสืบสวนสอบสวนคดีฆาตกรรมต่างๆ ด้วยกัน จากนั้นก็พบรักกัน ในแต่ละตอนจะมีคดีต่างๆ ซึ่งเราจะเห็นมุมมองการคิดของทั้งนางเอก พระเอก และผู้ช่วยอีก 2 คนที่อยู่ในตำแหน่งที่ต่างกัน ทำให้ผมนี้ขอสมัครเป็นนักสืบด้วยทีเดียวเลยครับ”



        ต่อมาผมได้ย้ายจากสำนักงานตำรวจมาอยู่ “สถาบันวิจัยเจฟเฟอร์โซเนียน” หลังจากนี้ให้เรียกผมว่า “บู๊ท” เพราะตอนนี้ผมได้ย้ายมาอยู่ในเรื่อง Bones เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับ “นักวิทยาศาสตร์สาวสวยซึ่งมีความเป็นอัจฉริยะเรื่องกระดูก แต่มีปัญหาด้านการเข้าสังคม มาช่วยกันสืบคดีฆาตกรรมกับ FBI หนุ่มนามว่า Booth ซึ่งเป็นนักแม่นปืนเก่า (ขอบอกว่าเท่มากๆ ยิ่งไกลแค่ไหนก็โดน #โดนได้ยังไง5555) สุดท้ายเขาก็รักกัน ฮิ้ววววว ในแต่ละตอนนั้นจะบอกถึงวิธีการหาฆาตกรด้วยวิธีทางวิทยาศาสตร์ เชื่อว่าหลายๆ คนที่ดูต้องชอบแน่ๆ ครับ)



        ต่อไปนี้จะเป็นเรื่องสุดท้าย จากที่ผมได้เดินทางสายวิทยาศาสตร์จนเริ่มรู้สึกอิ่มตัว เลยหันมาทางด้าน ไสยศาสตร์ บ้าง คราวนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับเหล่าผีสาง ที่ขึ้นมาเอาชีวิตของมนุษย์ธรรมดา เลยต้องมีพระเอกขี่ม้าขาวมาต่อสู้ นั่นก็คือเรื่อง Constantine นั่นเอง (เรื่องนี้มีทั้งหนังมีทั้งซีรีย์ อย่าลืมดูกันให้หมดนะ) เรื่องนี้ผมยังดูไม่จบดี แต่พอจับใจความได้ว่า “พระเอกคือคนที่มีพลังในการไล่ผี คอยกำจัดเหล่าวิญญาณร้ายที่คอยมาเอาชีวิตมนุษย์ธรรมดาไป เหมือนเรื่องในหนังเลย ที่ คีนู รีฟส์ เป็นคนเล่นคือบอกได้เลยว่าตอนเล่นในหนังนั้นทั้งเท่ ไล่ผีได้ ดูแบดๆ สาวติดตรึม ในซีรีย์ก็ไม่ต่างกันมาก” แนะนำให้ดูกัน 



เล่ามาตั้งยืดยาวแล้ว ขอตัวไปดูซีรีย์ต่อละกันนะครับ  ขอขอบคุณที่เข้ามาอ่านบทความง่ายๆ ของผู้ชายกลางๆ คนนี้นะครับ ^^ 
และสุดท้ายต้องขอบคุณกล่องเคเบิ้ล STV เพื่อนยากที่ทำให้มีซีรีย์ดีๆ ดูแก้เบื่อได้ทุกวันจริงๆ